คาลเท็กซ์เตรียมรุก Nonoil ทุ่มพันล้านผุดปั๊มใหม่ 70 แห่ง
นายบุญญฤทธิ์ ศรีอ่อนคง ผู้จัดการฝ่ายองค์กรและรัฐสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ในฐานะผู้บริหารสถานีบริการน้ำมันแบรนด์คาลเท็กซ์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แผนขยายสถานีบริการน้ำมันของคาลเท็กซ์ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ ในช่วง 3 ปีนี้ (59-61) จะขยายสถานีบริการ 20 แห่ง/ปี รวมสถานีบริการใหม่ทั้งสิ้น 70 แห่ง ลงทุนอยู่ที่ 20-30 ล้านบาท/แห่ง รวมการลงทุนประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยในปีนี้ขยายไปแล้ว 13 แห่ง ซึ่งในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้จะขยายได้ครบ 20 แห่งแน่นอน นอกจากนี้คาลเท็กซ์ยังมีการปรับปรุงสถานีบริการเดิมให้มีความใหม่และทันสมัยมากขึ้นด้วย โดยในปีนี้ยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการของคาลเท็กซ์ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7-8 เนื่องจากจัดส่งเสริมการขายต่อเนื่อง รวมถึงมีการทำตลาดน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมคือ "คาลเท็กซ์เทครอน"
แต่ขายในราคาปกติ ซึ่งผู้บริโภคให้ความสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากน้ำมันสูตรดังกล่าวตอบสนองการดูแลเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันเป็นหลัก
ปัจจุบันธุรกิจเสริมภายในสถานีบริการ (Nonoil) มีรองรับความต้องการที่หลากหลายทั้งร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี ลอว์สัน และแฟมิลี่มาร์ท รวมถึงร้านกาแฟดิโอโร่ และอื่น ๆและคาดว่าในปีหน้าจะเปิดตัวพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมให้บริการในสถานีบริการซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจากับหลายแบรนด์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
"ปั๊มน้ำมันแบรนด์คาลเท็กซ์ทั่วประเทศมีรวม 380 แห่ง ยังคงอยู่ในอันดับ TOP5 ของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 7% และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่องเช่น บัตร The One Card, ทรู ฯลฯ จะช่วยรักษามาร์เก็ตแชร์ไว้ได้แน่นอน ซึ่งการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันจะรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงอย่างมาก"
นายบุญญฤทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันค่าการตลาด (Margin) ของผู้ค้าน้ำมันยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเฉลี่ยที่ 1.50 บาท/ลิตร ในขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีการศึกษาถึงระดับค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 1.80-2 บาท/ลิตร
ฉะนั้นภาครัฐควรพิจารณาประเด็นดังกล่าวด้วยเพื่อให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพที่จะลงทุนต่อเนื่องในอนาคต และสร้างมาตรฐานในการบริการที่ดีให้กับผู้บริโภคต่อไปด้วย สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้านั้นมองว่าราคาน้ำมันอาจจะผันผวนน้อยลงเมื่อเทียบกับปีนี้
รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงานระบุว่า ปัจจุบันบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รวม 1,604 แห่ง รองลงมาคือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) 1,240 แห่ง บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 1,075 แห่ง บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 542 แห่ง บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด 494 แห่งและคาลเท็กซ์ 365 แห่ง
ปัจจุบันธุรกิจเสริมภายในสถานีบริการ (Nonoil) มีรองรับความต้องการที่หลากหลายทั้งร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี ลอว์สัน และแฟมิลี่มาร์ท รวมถึงร้านกาแฟดิโอโร่ และอื่น ๆและคาดว่าในปีหน้าจะเปิดตัวพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมให้บริการในสถานีบริการซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจากับหลายแบรนด์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
"ปั๊มน้ำมันแบรนด์คาลเท็กซ์ทั่วประเทศมีรวม 380 แห่ง ยังคงอยู่ในอันดับ TOP5 ของผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 7% และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่องเช่น บัตร The One Card, ทรู ฯลฯ จะช่วยรักษามาร์เก็ตแชร์ไว้ได้แน่นอน ซึ่งการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันจะรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงอย่างมาก"
นายบุญญฤทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันค่าการตลาด (Margin) ของผู้ค้าน้ำมันยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเฉลี่ยที่ 1.50 บาท/ลิตร ในขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีการศึกษาถึงระดับค่าการตลาดที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 1.80-2 บาท/ลิตร
ฉะนั้นภาครัฐควรพิจารณาประเด็นดังกล่าวด้วยเพื่อให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพที่จะลงทุนต่อเนื่องในอนาคต และสร้างมาตรฐานในการบริการที่ดีให้กับผู้บริโภคต่อไปด้วย สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้านั้นมองว่าราคาน้ำมันอาจจะผันผวนน้อยลงเมื่อเทียบกับปีนี้
รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงานระบุว่า ปัจจุบันบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รวม 1,604 แห่ง รองลงมาคือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) 1,240 แห่ง บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 1,075 แห่ง บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 542 แห่ง บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด 494 แห่งและคาลเท็กซ์ 365 แห่ง
ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1475416976
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น