ก้าวทันAEC – ส่องภาวะลงทุน ธนาคารกลางเวียดนามออกใบอนุญาตสำหรับธนาคาร CIMB ของมาเลเซียในการจัดตั้งหน่วยงานในเวียดนาม และถือเป็นธนาคารต่างชาติแห่งที่ 7 ที่ได้รับการอนุญาต ส่วนฟิลิปปินส์จะเปิดโอกาสให้มีการนำเข้าข้าวมากขึ้นภายในปีหน้า ขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกการกีดกันการค้าข้าว ขณะที่รัฐบาลเมียนมากำลังขยายตลาดส่งออกข้าวผ่านระบบการค้าปกติ เล็งเจาะตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ประเทศในแถบยุโรปและแอฟริกา
นายโกสินทร์ เจือศิริภักดี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจสถาบันและการตลาดต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซียไซรัส จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวภาวะเศรษฐกิจต่างปรเทศว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอินโดนีเซียลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 113.3 ในเดือนส.ค. จาก 114.2 ในเดือนก.ค. เนื่องจากชาวอินโดนีเซียรู้สึกมีความเห็นในแง่ลบมากขึ้นเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่าง และรายได้ อย่างไรก็ตามผู้บริโภคคาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นมากในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าภาวะทางธุรกิจ รายได้ และตำแหน่งงานว่างจะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียอยู่ที่ 2.79% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนธ.ค.2009
โครงการนิรโทษกรรมทางภาษีของอินโดนีเซียมีแนวโน้มดึงดูดเงินให้ไหลกลับเข้าประเทศได้ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นอย่างมาก โดยทำรายได้ให้รัฐบาลเพียง 18 ล้านล้านรูเปียห์ในปี 2016 หรือเพียงแค่ 11 % ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ และจะทำรายได้อีก 3 ล้านล้านรูเปียห์ในปี 2017 แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 165 ล้านล้านรูเปียห์ (1.26 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2016 ซึ่งจะช่วยให้ยอดขาดดุลงบประมาณอยู่ในระดับไม่เกินเพดานทางกฎหมายที่ 3 % ของ GDP รวมทั้งการหาเงินมาใช้ดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
ทั้งนี้อินโดนีเซียเริ่มดำเนินโครงการนิรโทษกรรมทางภาษีระยะ 9 เดือนในเดือนก.ค. โดยเสนออัตราค่าปรับที่ระดับต่ำสำหรับผู้ที่แจ้งสินทรัพย์ที่ไม่ได้เสียภาษีในประเทศหรือต่างประเทศภายในเดือนมี.ค. 2017 และนับตั้งแต่เริ่มมีการดำเนินโครงการนิรโทษกรรม ดัชนีตลาดหุ้นจาการ์ตาก็พุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 10 % โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า จะมีเงินไหลกลับเข้ามาในประเทศมากยิ่งขึ้น
Lion Air Group ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินของอินโดนีเซีย โดยสายการบินทั้ง 3 ได้แก่ Lion Air, Batik Airและ Wings Air ได้ให้บริการผู้โดยสารกว่า 20.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 48.4 ของทั้งตลาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 ตามมาด้วย Garuda Indonesia Group และ Sriwijaya Air Group ทางด้านประธานกรรมการของ Lion Air ระบุว่าส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มทีมีการเติบโตร้อยละ 5 ในปีที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันจะยังชะลอตัวอยู่ก็ตาม
มาเลเซีย
มาเลเซียได้ต่ออายุสำหรับคำสั่งหยุดพักกิจกรรมการทำเหมืองบอกไซต์ออกไปอีกเป็นเวลากว่า 3 เดือน โดยต่ออายุออกไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. เนื่องจากเกิดการต่อต้านจากประชาชน หลังจากก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมเหมืองบอกไซต์เคยเฟื่องฟู โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากจีน และอินโดนีเซียห้ามการส่งออกแร่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามการขุดเหมืองดังกล่าวอย่างเร่งด่วนส่งผลให้มีการร้องเรียนเรื่องน้ำปนเปื้อน และสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลาย หลังจากนั้นรัฐบาลมาเลเซียก็ได้ประกาศในเดือนม.ค.ให้ระงับการทำเหมืองบอกไซต์เป็นต้นมา
ยอดส่งออกของมาเลเซียลดลง5.3% ต่อปี ในเดือนก.ค.หลังจากเติบโต 3.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 15 เดือน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงฉุดจากการส่งออกไปยังจีนและการร่วงลงของจำนวนส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดส่งออกอาจปรับขึ้น 2.5% ต่อปีในเดือนก.ค. นอกจากนี้ยอดนำเข้าของมาเลเซียลดลง 4.8% ต่อปีในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 8.3% ต่อปีในเดือนมิ.ย.
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2016 ธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia : BNM) ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 3% ซึ่งเป็นไปตามคาดเนื่องจากมีความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจซึ่งอาจส่งผลต่อความเติบโตของประเทศ อย่างไรก็ตาม มีความเห็นในแง่บวกที่ว่า ความเติบโตจะมีอย่างต่อเนื่องไปตลอดจนปี 2017 โดย BNM กล่าวว่า ขณะนี้มีกิจกรรมเพียงพอที่จะผลักดันเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าการเติบโตรายปี ร่วงลง 4% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเติบโตช้าสุดในรอบ 7 ทั้งนี้ รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการให้การขาดดุลงบประมาณเป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับไม่เกิน 3.1% ของ GDP แต่อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นสุดเดือนมิ.ย. การขาดดุลดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 5.5%
ประเทศจีนมีความหวังที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศกับมาเลเซียให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือเชิงปฎิบัติการ ขณะเดียวกันจีนจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเข้าร่วมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียยินดีที่จะเห็นการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการจีนในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมาเลเซียรวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งนี้ มาเลเซียสนับสนุนความร่วมมือทางการเงินระหว่างสอง และการทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียนและจีน
ผลสำรวจของ Knight Frank เผยว่า ราคาบ้านมาเลเซียพุ่งขึ้นสูงกว่าราคาบ้านในตลาดสหรัฐ สหราชอณาจักร ฮ่องกง และ สิงคโปร์ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทำให้มาเลเซียถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีราคาขายบ้านสูงที่สุดในโลก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมาเลเซียถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 12 เนื่องจากมีราคาบ้านพุ่งสูงขึ้น 7.2% ในขณะที่ราคาบ้านสหรัฐ และ สหราชอณาจักรยังอยู่ในแนวเดิมเนื่องจากปรับตัวขึ้น 5.2% และ 5.1%
สิงคโปร์
สิงคโปร์และออสเตรเลียตกลงกันเรื่องการดำเนินการแลกเปลี่ยน ข้อมูลทางการเงินของผู้มีภูมิลำเนาทางภาษีในสองประเทศโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเริ่มต้นภายในเดือนก.ย. 2018 เพื่อสกัดกั้นการหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งนี้สิงคโปร์, สวิตเซอร์แลนด์ และฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินต่างประเทศ โดยสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าของบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ขนาดใหญ่หลายแห่ง และในปีที่แล้ว สิงคโปร์ก็ได้รับการเพ่งเล็งจากออสเตรเลียและประเทศผู้ผลิตทรัพยากรรายใหญ่ประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศกลุ่มนี้ตั้งข้อสงสัยว่า บริษัทหลายแห่งใช้หน่วยงานในสิงคโปร์ในการหลีกเลี่ยงภาษี
ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ระบุว่า มีสัญญาณขั้นต้นที่บ่งชี้ว่า การระบาดของโรคไวรัสซิกาในสิงคโปร์อาจจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ และขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบที่สิงคโปร์ได้รับจากโรคไวรัสซิกา โดยสิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางและศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ โรคไวรัสซิกาอาจจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ แต่ไม่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบสำคัญต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยรวม
จากผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 1.8% ในปีนี้ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน คาดว่ายอดการส่งออกซึ่งไม่นับรวมสินค้าจำพวกน้ำมัน จะหดตัวลง 3.6% ในปีนี้ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลงเพียง 2.1% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายเดือนจะปรับตัวลดลง 0.5% ในปีนี้
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของภาคการผลิตของสิงคโปร์ลดลง 0.5% สู่ระดับ 49.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน โดยมีสาเหตุจากการจ้างงานที่ซบเซา และการขยายตัวที่ลดลงของสินค้าคงคลังภาคการผลิต และสินค้าสำเร็จรูป ถึงแม้ผลผลิตในภาคโรงงาน, คำสั่งซื้อใหม่ และการส่งออกใหม่มีการขยายตัว ทั้งนี้ภาคการผลิตมีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจสิงคโปร์
Channel News Asia (CNA) รายงานว่า สิงคโปร์มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรกหรือเพิ่มขึ้น 1.7 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยระบุว่านักเที่ยวที่เข้ามาอยู่ในสิงคโปร์โดยใช้เวลาต่ำกว่า 1 ปี (International Visitor Arrivals-IVA) มีจำนวน 4.1 ล้านคนหรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น 14 % เช่นกัน ชาวต่างชาติที่มาสิงคโปร์ 5 อันดับแรก คือ จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ออสเตรเลียและอินเดีย ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 53 % ของนักท่องเที่ยว IVA ทั้งหมด ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรก มีเงินไหลเข้าประเทศ 5,400 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ฟิลิปปินส์
ฟิลิปปินส์จะประกาศระงับการดำเนินงานของเหมืองแร่จำนวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องในข้อหาละเมิดกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้สั่งระงับการดำเนินงานของเหมืองไปแล้ว 10 แห่ง ซึ่ง 8 แห่งในจำนวนนี้เป็นผู้ผลิตสินแร่นิกเกิล ทั้งนี้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศผู้ผลิตแร่นิกเกิลรายใหญ่ที่สุดในโลก การสั่งระงับการดำเนินงานเหมืองในช่วงที่ผ่านมา และความเป็นไปได้ที่จะมีการสั่งระงับเพิ่มขึ้นอีกนั้น ส่งผลให้ราคานิกเกิลพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ระดับสูงกว่า 11,000 ดอลลาร์ต่อตันในวันที่ 10 ส.ค
รัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์มีแผนที่จะระดมทุน 500 ล้านดอลลาร์ด้วยการขายพันธบัตรทั่วโลกในปีหน้าเพื่อช่วยสนับสนุนงบประมาณของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตในปี 2017 โดยรัฐบาลจะระดมทุน 1.2626 แสนล้านเปโซ (2.7 พันล้านดอลลาร์) ด้วยการขายพันธบัตรทั่วโลก และจากเงินกู้ช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการเพื่อนำไปช่วยสนับสนุนงบประมาณแห่งชาติวงเงิน 3.35 ล้านล้านเปโซในปีหน้า
ฟิลิปปินส์จะเปิดโอกาสให้มีการนำเข้าข้าวมากขึ้นภายในปีหน้า ขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกการกีดกันการค้าข้าว หลังจากได้ใช้ข้อจำกัดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 1995 โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าข้าวที่ 35% และกำหนดปริมาณการนำเข้าต่อปีของภาคเอกชนไว้ที่ 805,200 ตัน ซึ่งฟิลิปปินส์ได้เข้าขยายข้อจำกัดดังกล่าว 2 ครั้งนับตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิก WTO ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าวมากกว่า 1 ล้านตันต่อปี โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากไทยและเวียดนาม ซึ่งรวมถึงการซื้อข้าวแบบปลอดภาษีของสำนักงานอาหารแห่งชาติ (NFA)
ฟิลิปปินส์มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. โดยพุ่งแตะระดับ 8.5895 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.39 พันล้านดอลลาร์ จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 8.5510 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งระดับทุนสำรองในเดือนส.ค. สามารถรองรับการนำเข้าได้ 10.5 เดือน และเทียบเท่ากับ 6 เท่าของหนี้นอกประเทศระยะสั้น โดยการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองมีสาเหตุมาจากเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาล และการดำเนินธุรกรรมปริวรรตเงินตราของธนาคารกลาง รวมทั้งรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศ
เวียดนาม
ธนาคารกลางเวียดนามออกใบอนุญาตสำหรับธนาคาร CIMB ของมาเลเซียในการจัดตั้งหน่วยงานในเวียดนาม และถือเป็นธนาคารต่างชาติแห่งที่ 7 ที่ได้รับการอนุญาตดังกล่าว ทั้งนี้ CIMB Group Holdings Bhd เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 5 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คิดจากมูลค่าสินทรัพย์ โดยใบอนุญาตมีอายุ 99 ปีซึ่งเริ่มต้นในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ทาง CIMB ยังมีแผนการขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศพม่าและฟิลิปปินส์ รองรับการขยายตัวของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ผ่านมาในเดือนมี.ค. ธนาคารกลางเวียดนามได้อนุญาตให้แก่ Public Bank Berhad และในเดือนส.ค.นี้ยังได้อนุมัติข้อเสนอของธนาคาร Woori ของเกาหลีใต้ในการเข้ามาเปิดธุรกิจในเวียดนาม
สายการบิน VietJet ของเวียดนามได้ทำข้อตกลงในการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A321 กับ Airbus Group มูลค่ากว่า $ 2.39 พันล้าน โดยเครื่องบินจะถูกส่งให้กับ VietJet ระหว่างปี 2017 จนถึงปี 2020 ทั้งนี้สายการบิน VietJet เริ่มเปิดดำเนินการในเดือนธันวาคมของปี 2011 และกำลังมองหาตลาดที่มีการเติบโตขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อปีในช่วงสามปีที่ผ่านมาเพื่อขยายตลาดซึ่งเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ทางสายการบินได้ระบุว่าจะสั่งซื้อเครื่องบิน Boeing 737-Max 200 จำนวน 100 ลำ เป็นมูลค่ากว่า $11.3 พันล้าน หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาได้เดินทางมาที่เวียดนาม และในปีนี้สายการบิน VietJet กลายเป็นผู้ให้บริการสายการบินในประเทศที่ใหญ่ที่สุด และคาดว่าเวียดนามจะติดอันดับ 1 ใน10 ของโลก ด้านตลาดการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้เงินกู้แก่รัฐบาลเวียดนามจำนวน 11 พันล้านเยนในปีงบประมาณ 2016 เพื่อช่วยปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมรวมทั้งความได้เปรียบในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ โดยเงินกู้ดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าประมาณ 106 ล้านเหรียญสหรัฐจะช่วยรัฐบาลเวียดนามในการดำเนินโครงการ Economic Management and Competitiveness Credit programme (EMCC) ระยะที่ 3 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการปฏิรูปในสาขาที่มีความสำคัญในช่วงปี 2016-2020
ลาว
ในปีนี้ประเทศไทยได้เพิ่มการซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาวสู่ระดับ 9,000 จาก 7,000 เมกะวัตต์เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็เพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานเพียงพอ โดยข้อตกลงการจัดซื้อพลังงานได้ลงนามระหว่างที่นายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมนายกรัฐมนตรีของประเทศลาว
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ ให้คำมั่นระหว่างเยือนลาวเป็นเวลา 3 วันว่า จะจัดสรรงบประมาณ 90 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการสำรวจและจัดการผลกระทบอันเกิดจากระเบิดที่ยังไม่ระเบิดตกค้างอยู่ในลาว ในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐจะเข้ามาช่วยจัดหาบันทึกตำแหน่งของการทิ้งระเบิดในสงครามครั้งนั้น ทั้งนี้ลาวเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบจำนวนต่อหัวประชากร เมื่อครั้งสหรัฐเข้าไปทำสงครามลับภายใต้การนำของสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ช่วงปี 2507-2516
กัมพูชา
ข้อมูลจากหน่วยงานเครดิต ระบุถึงการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญของอัตราการกู้ยืมในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยมีสาเหตุมาจากเกณฑ์ให้สินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นและอุปสงค์ของสินเชื่อที่น้อยลงจากภาคเกษตรกรรมซึ่งกำลังประสบภาวะยากลำบาก โดย Credit Bureau Cambodia (CBC) ระบุว่าใบคำขอสินเชื่อโดยรวม ซึ่งรวมถึงการเงินส่วนบุคคล, บัตรเครดิตและการจำนอง ปรับตัวลงร้อยละ 25 ในช่วงไตรมาสที่สองของปี ขณะที่ยอดค้างชำระการกู้ยืมสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.75 ในช่วงไตรมาสสอง แตะระดับ $ 2.73 พันล้าน
Royal Group ซึ่งเป็นเครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกัมพูชาจะเข้าร่วมในการระดมทุนเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ในจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้หลังจากปี 2020 ขณะที่รายละเอียดขนาดการลงทุนยังไม่ได้มีการระบุอย่างแน่ชัด โดยโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งแรกและแห่งที่สองได้เปิดดำเนินการไปแล้วในเดือนพ.ย. ปี 2014 และเดือนมี.ค. ปี 2015 และปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 270 เมกะวัตต์ และขณะนี้การพัฒนาโรงไฟฟ้าในเฟสที่ 3 นี้จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 135 เมกะวัตต์ ทั้งนี้โรงไฟฟ้าพลังงาน 700 เมกะวัตต์ เป็นความร่วมมือระหว่าง Cambodian People’s Party Senator Lao Meng Khin’s Cambodia InternaYonal Investment Development Group (CIIDG) กับ Erdos Hongjun Electric Power Co. ของจีนด้วยมูลค่ากว่า US$ 383 ล้าน
Bank of China ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ธนาคารายใหญ่ของรัฐบาลจีนจะขยายการดำเนินงานในประเทศกัมพูชาโดยการเปิดสาขาใหม่ในเสียมเรียบและสีหนุวิลภายในสิ้นปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการการลงทุนจากจีนมายังกัมพูชามากขึ้น ทั้งนี้ Bank of China ได้เริ่มดำเนินการในประเทศกัมพูชาตั้งแต่ปี 2010 และปัจจุบันมีสาขา 2 แห่งในเมืองหลวง โดยธนาคารจัดอยู่ในระดับแนวหน้าของการส่งเสริมการทำธุรกรรมทางธุรกิจในสกุลเงินหยวนของจีนซึ่งนำเสนอการบริการโอนเงินข้ามพรมแดน การลงทุนและการชำระเงินสำหรับการนำเข้าและส่งออก
โดยในปีที่ผ่านมาธุรกรรมข้ามพรมแดนของเงินหยวนพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 80 เมื่อเทียบรายปีต่อไปตามรายงานประจำปีของสาขาธนาคารแห่งประเทศจีนขณะที่ทางธนาคารมีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.8 เมื่อเทียบกับ ปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามการใช้เงินหยวนในกัมพูชายังมีข้อจำกัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจของกัมพูชายังคงอ้างอิงกับเงินสกุลดอลลาร์สรอ. มากกว่า
เมียนมา
รัฐบาลเมียนมากำลัง พยายามขยายตลาดส่งออกข้าวผ่านระบบการค้าปกติ โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสมาพันธ์ข้าวแห่งเมียนมาเล็งเจาะตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ประเทศในแถบยุโรปและแอฟริกา รวมทั้งกำลังร่วมมือกับจีน เพื่อเพิ่มโควตาการส่งออกข้าว และกำลังพยายามขยายช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับ การส่งออกข้าว 300,000 ตัน ไปยังอินโดนีเซีย ข้อมูลสถิติการ ส่งออกข้าวของเมียนมาร์ระบุว่า มูลค่าการส่งออกข้าวในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559-2560 อยู่ที่ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14 ล้านบาท) โดยร้อยละ 80 ของมูลค่าทั้งหมดเป็นการส่งออกข้าวไปยังจีนผ่านการค้าชายแดน
ที่มา : https://www.thunhoon.com/42712-2/